วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554

สมุนไพรไทย ว่านหางจระเข้ (Aloe vera (L.) Burm.f.)



ชื่อวิทยาศาสตร์  
     Aloe vera  (L.)  Burm.f.   Aloe barbadensis  Mill

ชื่อสามัญ  
     Star cactus, Aloe, Aloin, Jafferabad, Barbados

วงศ์ :   
     Asphodelaceae

ชื่ออื่น :  
     หางตะเข้ (ภาคกลาง) ว่านไฟไหม้ (ภาคเหนือ)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
     ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 0.5-1 เมตร ลำต้นเป็นข้อปล้องสั้น ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนรอบต้น ใบหนาและยาว โคนใบใหญ่ ส่วนปลายใบแหลม ขอบใบเป็นหนามแหลมห่างกัน แผ่นใบหนาสีเขียว มีจุดยาวสีเขียวอ่อน อวบน้ำ ข้างในเป็นวุ้นใสสีเขียวอ่อน ดอก ออกเป็นช่อกระจะที่ปลายยอด ก้านช่อดอกยาว ดอกสีแดงอมเหลือง โคมเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 6 แฉก เรียงเป็น 2 ชั้น รูปแตร ผล เป็นผบแห้งรูปกระสวย

ส่วนที่ใช้ :
     วุ้นในใบสด  ยางในใบ  เหง้า

สรรพคุณ :
     วุ้นในใบสด 
- บรรเทาอาการปวดศีรษะ
- รักษาแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้
- ถอนพิษ แก้ปวดแสบปวดร้อน แผลเรื้อรัง
     ยางในใบ - ทำยาดำ เป็นยาระบาย
     เหง้า  - ต้มเอาน้ำรับประทาน แก้หนองใน 

วิธีและปริมาณที่ใช้ :
     บรรเทาอาการปวดศีรษะ
เลือกใบว่านหางจระเข้ที่อยู่ล่างสุด ใบสด 1 ใบ (เพราะมีตัวยามากกว่า) ฝานตามขวางใบ หนาประมาณ 1/4 ซม. ใช้ปูนแดงทาตรงเนื้อที่มีลักษณะคล้ายวุ้นสีขาวใสๆ แล้วเอาทางด้านปูนแดงปิดบนขมับ
     รักษาแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ ถอนพิษ
ปอกเปลือกสีเขียวออก ล้างยางสีเหลืองออกให้หมด ขูดเอาวุ้นใสออกมาทาพอกบริเวณแผลที่ถูกไฟไหม้ หรือน้ำร้อนลวกให้ชุ่ม เปลี่ยนวุ้นทุกวันจนกว่าจะหาย ช่วยระงับความเจ็บปวดด้วยและป้องกันการติดเชื้อ ช่วยให้แผลหายเร็วและไม่เกิดแผลเป็น
     ** วุ้นว่านหางจระเข้ ยังใช้ทารักษาผิวไหม้ที่เกิดจากแดดเผาได้

ข้อควรระวัง
     ก่อนใช้ว่านทดสอบดูว่าแพ้หรือไม่ โดยเอาวุ้นทาบริเวณท้องแขนด้านใน ถ้าผิวไม่คันหรือแดงก็ใช้ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น